วิสัยทัศน์
เป็นองค์กรแห่งผู้นำ ความรู้คู่คุณธรรม นำการเปลี่ยนแปลง
พันธกิจ
เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของศิษย์เก่าในการสนับสนุนสถาบันทุกมิติ
เพื่อให้ดำรงฐานะเป็นสถาบันชั้นนำแห่งชาติ
ที่สร้างผู้นำและองค์ความรู้คู่คุณธรรม เพื่อการเปลี่ยนแปลงและรับใช้สังคม
รายชื่อนายกสมาคมนักศึกษาเก่าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์
1. พลโท ชาญ อังศุโชติ พ.ศ. 2524-2526
2. พลเอก สันต์ จิตปฏิมา พ.ศ. 2526-2528
3. ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล พ.ศ. 2528-2530
4. ดร.ธวัช วิชัยดิษฐ์ พ.ศ. 2530-2534
5. นายศิวะ แสงมณี พ.ศ. 2545-2547
6. พลเอก ไพศาล กตัญญู พ.ศ. 2547-2550 และปีพ.ศ. 2550-2552
7. นายอดิศักดิ์ โรหิตศุน พ.ศ. 2552-2554
8. นายธนากร เกษตรสุวรรณ พ.ศ. 2554-2556
9. นายสุมิตร เพชราภิรัชต์ พ.ศ. 2556-2558 และปีพ.ศ. 2558-2560**
10. พลเอก ธีระเดช ฉัตรเสถียรพงศ์ พ.ศ. 2560-2560 และปีพ.ศ. 2562-2564**
11. นายดุสิต ปิยะทัต พ.ศ. 2564-ปัจจุบัน
** พระราชทานพระมหากรุณาให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์
ข้อบังคับ
สมาคมนักศึกษาเก่าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ในพระบรมราชูปถัมภ์
(ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2565
__________________
หมวด 1
ข้อความทั่วไป
ข้อ 1. สมาคมนี้ชื่อว่า “สมาคมนักศึกษาเก่าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์” ใช้อักษรชื่อย่อภาษาไทยว่า “สน.สพบ.” ใช้ชื่อภาษาอังกฤษ “The National Institute of Development Administration Alumni Association Under the Royal Patronage” และใช้อักษรย่อภาษาอังกฤษว่า “NIDA ALAS Under the Royal Patronage ”
ข้อ 2. สมาคมมีเครื่องหมาย เป็นรูปธรรมจักรอยู่ภายในวงกลม ล้อมรอบด้วยกลีบบัวขาว ที่วงกลมบรรจุข้อความว่า “สมาคมนักศึกษาเก่าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์” กงที่แยกออกจากแกน 8 กง ทำเป็นรูปคบเพลิงที่มีเปลวเป็นสีขาวดังรูปนี้ เครื่องหมายนี้มีความหมายว่า “การใช้ความรู้ไปในทางที่ดี โดยถือมรรค 8 เป็นหลัก จะส่งผลให้เกิดความรุ่งเรืองแก่ประเทศชาติหรือมวลมนุษย์” ซึ่งนักศึกษาเก่าจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นผู้ที่ยึดมั่นในคำขวัญของสถาบัน
![]()
ข้อ 3. สมาคมมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เลขที่ 148 ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10240
ข้อ 4. ให้ยกเลิกข้อความในข้อบังคับสมาคมนักศึกษาเก่า สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2563 ที่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้ และใช้ข้อความที่แก้ไขแทน
หมวด 2
บทนิยาม
ข้อ 5. ในข้อบังคับนี้
5.1 “สถาบัน” หมายความว่า สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
5.2 “สมาคม” หมายความว่า สมาคมนักศึกษาเก่าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในพระ-บรมราชูปถัมภ์
5.3 “นายก” หมายความว่า นายกสมาคมนักศึกษาเก่าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
5.4 “คณะกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะบุคคลซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการกิจการของสมาคม และเป็นผู้แทนของสมาคมในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายในและภายนอก โดยมีรายชื่อตามที่ได้ขอรับการจดทะเบียนจากนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร
“กรรมการกลาง” หมายความว่า ผู้แทนคณะกรรมการบริหารชุดที่แล้วหรือจากศิษย์เก่า ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหาร
“ปีการเงิน” หมายความว่า ปีการเงินของสมาคม ซึ่งเริ่มต้นจากวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปีนั้นๆ
“สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกสามัญ , สมาชิกวิสามัญ และสมาชิกกิตติมศักดิ์ ตามข้อ 7, และได้ชำระค่าบำรุงตามข้อ 9 เรียบร้อยแล้ว
หมวด 3
วัตถุประสงค์
ข้อ 6. สมาคมมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
6.1 เป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือกับนักศึกษาเก่าของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในการพัฒนาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
6.2 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อการช่วยเหลือสังคม และการพัฒนาประเทศ
6.3 พัฒนาสมาคมให้มีศักยภาพที่ทันสมัยและก้าวหน้า โดยพัฒนาเครือข่ายสมาชิก นักศึกษาเก่า นักศึกษาปัจจุบัน บุคลากรและคณาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ให้เข้มแข็ง และเกิดความสามัคคี
6.4 พัฒนาองค์ความรู้ใหม่ให้กับนักศึกษาเก่า นักศึกษาปัจจุบัน และบุคคลทั่วไป ในรูปของการจัดการฝึกอบรม การสัมมนา และการเสวนา โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากในประเทศและต่างประเทศ
6.5 สนับสนุนกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลต่างๆ
6.6 ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่ประการใด
หมวด 4
สมาชิก
ข้อ 7. สมาคมมีสมาชิก 3 ประเภท คือ
7.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่
7.1.1 นักศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษา
7.1.2 นักศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ที่ไม่สำเร็จการศึกษาตามระยะเวลา ที่สถาบันกำหนด
7.1.3 นักศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่กำลังศึกษาอยู่ปัจจุบันและอยู่ในระยะเวลาการศึกษาที่สถาบันกำหนด
7.1.4 คณาจารย์ของสถาบัน ฯ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
7.1.5 ผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรของสถาบันหรือของคณะต่างๆ หรือหลักสูตรการฝึกอบรมที่สมาคมจัดขึ้น ซึ่งมีระยะการฝึกอบรมตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป และได้สมัครเป็นสมาชิกซึ่งคณะกรรมการบริหารมีมติรับเป็นสมาชิก
7.2 สมาชิกวิสามัญ ได้แก่
7.2.1 ผู้ที่เคยผ่านการอบรมจากคณะต่างๆ ในสถาบันและสมัครเป็นสมาชิก
7.2.2 ผู้ที่ศึกษาจากคณะรัฐประศาสนศาสตร์เดิมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสมัครเป็นสมาชิก
7.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิหรือมีประสบการณ์ในการบริหารจากส่วนราชการหรือธุรกิจ หรือผู้มีอุปการะหรือให้ความสนับสนุนกิจการของสมาคมที่ได้รับเชิญจากคณะกรรมการบริหารด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
7.4 สมาชิกวิสามัญตามข้อ 7.2 สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสมาชิกสามัญได้จะต้องเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์กับสมาคม สถาบัน สังคมและประเทศชาติ โดยจะต้องได้รับมติเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร
ข้อ 8. การสมัครเข้าเป็นสมาชิก
8.1 ให้ผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมต้องยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกตามแบบฟอร์มมาตรฐาน หรือแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ของสมาคม โดยยื่นต่อสมาคม และให้นายทะเบียนตรวจสอบและลงนามรับรอง แล้วเสนอใบสมัครพร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณามีมติให้ความเห็นชอบ
8.2 สมาชิกภาพของผู้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคม ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการบริหารมีมติเห็นชอบ
ข้อ 9. ค่าบำรุง
9.1 สมาชิกสามัญต้องชำระค่าบำรุงตลอดชีพ 100 บาท
9.2 สมาชิกวิสามัญต้องชำระค่าบำรุงตลอดชีพ 100 บาท
9.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ไม่ต้องชำระค่าบำรุงตลอดชีพ
ข้อ 10. สิทธิของสมาชิก
10.1 สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิร่วมกิจกรรมเสนอความคิดเห็นในการดำเนินงานของสมาคม แต่การออกเสียงเกี่ยวกับการบริหารงานและการเลือกตั้งกรรมการบริหารของสมาคม ให้เป็นสิทธิของสมาชิกสามัญเท่านั้น
10.2 สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิใช้ประโยชน์ในสถานที่และบริการของสมาคม
10.3 สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิประดับเข็มเครื่องหมายของสมาคม
10.4 สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิได้รับทุนการศึกษาหรือทุนวิจัยตามระเบียบของสมาคม
10.5 สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิซักถามเกี่ยวกับการบริหารงาน ตลอดจนฐานะการเงินของสมาคม
10.6 สมาชิกสามัญตามข้อ 7.1.1 เท่านั้น มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมและกรรมการสมาคม
ข้อ 11. หน้าที่ของสมาชิก
11.1 ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคม
11.2 แจ้งให้สมาคมนักศึกษาเก่า ฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อมีการย้ายที่อยู่หรือที่ทำงาน รวมทั้งเปลี่ยนชื่อและนามสกุลด้วย โดยหากสมาชิกไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงให้สมาคมทราบ ให้ถือว่าชื่อและที่อยู่ที่สมาชิกได้ให้ไว้เป็นที่อยู่ปัจจุบัน หากสมาคมมีการแจ้งการใดๆ หน้าเว็บไซต์ของสมาคม ทางสื่อสังคมออนไลน์ จดหมาย จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศทางสิ่งพิมพ์ หรือวิธีอื่นใดตามที่สมาคมฯ เห็นสมควรของสมาคมฯ ไปยังสมาชิก เพื่อให้สมาชิกทราบ ให้ถือว่าสมาชิกได้รับทราบการแจ้งดังกล่าว โดยชอบแล้วทันที
11.3 ช่วยเหลือและเข้าร่วมในกิจกรรมของสมาคม
11.4 ส่งเสริมความสามัคคีระหว่างสมาชิกรวมทั้งปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม
ข้อ 12. สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลงเมื่อ
ตาย
ลาออก
ประพฤติตนเป็นที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของสมาคม และที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมีมติให้จำหน่ายชื่อสมาชิกผู้นั้นออกจากทะเบียนสมาชิกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนคณะกรรมการบริหาร
หมวด 5
การบริหารงานของสมาคม
ข้อ 13. สมาคมมีกรรมการบริหารคณะหนึ่ง จำนวนไม่น้อยกว่า 15 คน และไม่เกิน 30 คน ประกอบด้วย นายก อุปนายก เลขาธิการ เหรัญญิก นายทะเบียน ประชาสัมพันธ์ หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่น และกรรมการกลาง
13.1 กรรมการบริหารอยู่ในตำแหน่งวาระละ 2 ปี นับจากวันที่ได้รับการจดทะเบียนจากนายทะเบียนกรุงเทพมหานคร โดยห้ามนายกสมาคมดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระ
13.1.1 ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการบริหารว่างลงให้นายกแต่งตั้งสมาชิกสามัญเป็นกรรมการบริหารแทนได้
13.1.2 การดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารตามข้อ 13.1.1 วรรคสองให้อยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของกรรมการบริหารที่ตนแทน
13.2 คณะกรรมการบริหารมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
13.2.1 บริหารงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคม
13.2.2 กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์และออกระเบียบในการดำเนินงานของสมาคม
13.2.3 แต่งตั้งอนุกรรมการหรือคณะทำงาน หรือพนักงาน หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่น เพื่อประโยชน์แก่การดำเนินงานของสมาคมได้ตามความจำเป็น
13.2.4 จัดให้มีรายงานประจำปีและงบดุลแสดงฐานะทางการเงินของสมาคมเสนอต่อที่ประชุมใหญ่
13.3 ให้นายกแต่งตั้งกรรมการบริหารเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามความในข้อ 13 วรรคแรก เว้นแต่ตำแหน่งกรรมการกลาง ให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
13.4 คณะกรรมการบริหารต้องประชุมกันอย่างน้อยปีละ 6 ครั้ง โดยมีกรรมการเข้าประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการบริหารจึงจะถือเป็นองค์ประชุม การพิจารณาปัญหาใดๆ หรือการลงความเห็นให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานเป็นผู้ออกเสียงชี้ขาด ซึ่งอาจกำหนดประชุมทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ หรือประชุมโดยวิธีปกติร่วมกับประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างใดอย่างหนึ่ง
13.5 กรรมการบริหารพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
13.5.1 ครบกำหนดตามวาระ
13.5.2 ขาดสมาชิกภาพตามข้อ 12
13.5.3 ลาออก
13.5.4 ขาดการประชุมติดต่อกัน 3 ครั้ง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ข้อ 14. ให้นายกเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารงานของสมาคม และเป็นผู้แทนของสมาคมในการทำนิติกรรมติดต่อกับหน่วยงานภายนอกตามมติของคณะกรรมการบริหาร หรือการประชุมใหญ่ของสมาคม ในการดำเนินการติดต่อกับบุคคลภายนอก นายกอาจมอบอำนาจเช่นว่านี้ให้แก่กรรมการบริหารได้โดยทำเป็นหนังสือ
ข้อ 15. ในกรณีที่คณะกรรมการบริหารปฏิบัติหน้าที่จะครบกำหนดออกตามวาระแล้ว แต่ยังไม่มี การเรียกประชุมใหญ่สามัญ หรือการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ ให้คณะกรรมการบริหารชุดเดิมปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน
ข้อ 16. ให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ เมื่อคณะกรรมการบริหารชุดก่อนส่งมอบทรัพย์สิน บัญชี เอกสาร และเงินสดของสมาคม ที่ผู้ตรวจสอบบัญชีได้ตรวจสอบและรับรองว่าถูกต้องแล้ว ทั้งนี้ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่นายกสมาคมได้รับเลือกตั้ง
ข้อ 17. ให้นายกแจ้งรายชื่อคณะกรรมการบริหารนโยบาย และแผนงานให้สมาชิกทราบภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ได้ตั้งคณะกรรมการบริหาร
หมวด 6
การเงินและการบัญชี
ข้อ 18. รายได้ของสมาคมได้มาจาก
18.1 ค่าบำรุงของสมาชิก
18.2 เงินบริจาค
18.3 ดอกผลที่เกิดจากทรัพย์สินของสมาคม
18.4 รายได้อื่น ๆ
ข้อ 19. รายได้ของสมาคม ทุกประเภทให้ฝากไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นตามที่คณะกรรมการบริหารเห็นสมควรในนามของสมาคม
19.1 นายกมีอำนาจอนุมัติจ่ายเงินในนามของสมาคม ได้ไม่เกินครั้งละ 50,000 บาท หากจ่ายเงินเกินจำนวนนี้ต้องขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร
19.2 ให้เหรัญญิกเก็บรักษาเงินสดสำรองจ่ายได้ไม่เกิน 20,000 บาท
19.3 ให้เหรัญญิกจัดทำงบฐานะทางการเงินเสนอต่อนายกทุกรอบ 2 เดือน และต้องรายงาน
ให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารทราบทุกรอบ 4 เดือน
19.4 หลักฐานและใบสำคัญทางการเงินทุกฉบับ เหรัญญิกต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี เพื่อการตรวจสอบ
19.5 การสั่งจ่ายเงินของสมาคมต้องมีลายมือชื่อของกรรมการบริหารต่อไปนี้ คือ นา
หรือ อุปนายก หรือ เลขาธิการ หรือ เหรัญญิก ลงนามร่วมกันอย่างน้อย 2 คน
ข้อ 20. ให้ที่ประชุมสามัญประจำปีแต่งตั้งผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีของสมาคม
ทุกปี ผู้สอบบัญชีจะต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหาร
หมวด 7
การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร
ข้อ 21. เมื่อคณะกรรมการบริหารดำรงตำแหน่งจะครบวาระ 2 ปี ให้ดำเนินการเลือกตั้งนายกสมาคมในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคม โดยให้สมาชิกเสนอชื่อผู้สมควรเป็นนายกสมาคมจากสมาชิกสามัญ ข้อ 7.1.1 ของสมาคมที่อยู่ในที่ประชุมใหญ่ เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ของสมาคมเลือก
21.1 คณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบันแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคม
21.2 คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง ตามข้อ 21.1 เป็นผู้กำหนดวิธีการเลือกตั้งได้ ตามความเหมาะสม โดยไม่ขัดต่อข้อบังคับของสมาคมฉบับนี้
21.3 ขั้นตอนการเลือกตั้งนายกสมาคม
21.3.1 การเสนอชื่อผู้ลงรับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคม
21.3.1 (1) ให้สมาชิกในที่ประชุมเสนอชื่อผู้ลงรับเลือกตั้งนายกสมาคม ซึ่งจะต้องมีสมาชิกสามัญในที่ประชุมรับรองการเสนอชื่อผู้ลงรับเลือกตั้งนายกสมาคม อย่างน้อย 1 ราย
21.3.1 (2) สมาชิกที่ได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นสมาชิกสามัญตามข้อ 7.1.1 ต้องอยู่ในที่ประชุม มีคุณสมบัติครบตามข้อบังคับสมาคม และไม่ขัดต่อข้อบังคับของสมาคม ข้อ 13.1
21.3.2 กรณีมีผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกสมาคมมีเพียง 1 ราย ให้ประธานในที่ประชุม ขอมติในที่ประชุมใหญ่รับรองผล โดยถือคะแนน 2 ใน 3 ของสมาชิกที่ลงทะเบียนก่อนเวลาประกาศผลรับรอง และถือเป็นการสิ้นสุดการลงมติรับรองผล
21.3.2 (1) หากมีมติลงคะแนนไม่ถึง 2 ใน 3 ตามข้อ 21.3.2 ให้คณะกรรมการเลือกตั้งประกาศในที่ประชุม เพื่อให้เสนอชื่อผู้ลงรับเลือกตั้งใหม่ แล้วดำเนินการเลือกตั้งตาม ข้อ 21.3.1
21.3.2 (2) ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง เสนอชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคม จากสมาชิกสามัญ ตามข้อ 7.1.1 ในที่ประชุม อีก 1 ราย โดยมีคณะกรรมการเลือกตั้ง รับรอง 1 ราย และดำเนินการเลือกตั้งตามข้อ 21.3.3
21.3.3 กรณีมีผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกสมาคมเกินกว่า 1 ราย ให้คณะกรรมการ ที่สมาคมแต่งตั้ง ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง โดยให้ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง ชี้แจงขั้นตอนการเลือกตั้ง และวิธีการเลือกตั้งให้สมาชิกทราบ จึงดำเนินการเลือกตั้ง เมื่อทราบผลการเลือกตั้งนายกสมาคม ให้ประธานคณะกรรมการประกาศให้สมาชิกในที่ประชุมทราบ เพื่อรับรองผลการเลือกตั้งในครั้งนี้
21.3.4 เมื่อคณะกรรมการประกาศเพื่อรับรองผลการเลือกตั้ง สมาชิกสามัญผู้อยู่ใน ที่ประชุมจะคัดค้านผลการเลือกตั้งภายใน 7 วัน นับแต่วันรับรองผลการเลือกตั้ง
ข้อ 22. ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมตามข้อ 21 พิจารณาแต่งตั้งกรรมการบริหารสมาคมจาก นายกสมาคมของคณะ, สมาคมนักศึกษาเก่า/ศิษย์เก่าของคณะ หรือประธานชมรมนักศึกษาเก่า/ศิษย์เก่าของคณะ/วิทยาลัย ที่ยังไม่ได้จดทะเบียน ในสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ ตลอดจนนายกสมาคม/ประธานชมรมเครือข่ายนักศึกษาเก่านิด้าในส่วนภูมิภาค และสมาชิกสามัญของสมาคม เป็นคณะกรรมการบริหารในตำแหน่งต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ใน ข้อ 13 เพื่อขอจดทะเบียนทางราชการต่อไป
ข้อ 23. ให้นายกสมาคมที่ได้รับการเลือกตั้งตามข้อ 21 เลือกกรรมการบริหารในคณะกรรมการบริหารชุดเดิมอย่างน้อย 1 คน เป็นกรรมการกลางในคณะกรรมการชุดใหม่
หมวด 8
การประชุมใหญ่
ข้อ 24. การประชุมใหญ่สามัญของสมาคมให้กระทำเป็นปกติอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ซึ่งอาจกำหนดประชุมทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ และกำหนดเวลาอย่างช้าภายในเดือนเมษายนของทุกปี หากเกิดเหตุสุดวิสัยให้เลื่อนกำหนดเวลาได้ตามสมควรและตามความจำเป็น
24.1 ให้เลขาธิการเรียกประชุมโดยแจ้งกำหนดวัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุม ให้แก่สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนวันประชุม
24.2 ในกรณีที่จำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุมใหญ่อาจใช้วิธีส่งบัตรให้สมาชิกกรอกข้อความออกเสียงลงมติก็ได้และให้ถือว่าจำนวนคะแนนเสียงตามบัตรนั้นเป็นมติของที่ประชุม
24.3 วิธีการใช้บัตรและการออกเสียงลงมติให้คณะกรรมการบริหารกำหนดเป็นระเบียบขึ้น หรือหากไม่ได้กำหนดระเบียบ ให้คณะกรรมการบริหารสมาคมนักศึกษาเก่า ฯ กำหนดตามความเหมาะสมโดยไม่ขัดต่อข้อบังคับของสมาคมนักศึกษาเก่า ฯ
24.4 การประชุมใหญ่สามัญจะต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนสมาชิกสามัญ หรือไม่น้อยกว่า 50 คน จึงจะเป็นองค์ประชุม ในกรณีที่ให้สมาชิกใช้บัตรออกเสียง ลงมติให้นับจำนวนบัตรเป็นองค์ประชุมด้วย
24.5 หากการประชุมตามความในข้อ 24.4 มีสมาชิกมาประชุมไม่ครบองค์ประชุม ให้เลขาธิการเรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายในกำหนด 14 วัน นับจากกำหนดวันนัดที่แล้ว และในครั้งนี้หากมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของสมาชิกสามัญ หรือไม่น้อยกว่า 30 คน ให้ถือเป็นองค์ประชุม
24.6 คณะกรรมการบริหารมีอำนาจในการดำเนินการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงวิธีการ ตลอดจนสถานที่ในการประชุม เพื่อให้การประชุมใหญ่สามัญและวิสามัญเกิดความเรียบร้อย เหมาะสม แต่ต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับสมาคม หากมีการย้ายสถานที่ประชุมตามความจำเป็นเร่งด่วน จะต้องอยู่ภายในสถานที่บริเวณเดียวกันกับที่กำหนดไว้ ตามข้อ 24.1
24.7 คณะกรรมการบริหาร มีอำนาจในการดำเนินการจัดประชุมใหญ่สามัญและวิสามัญ โดยวิธีปกติ หรือโดยวิธีประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือประชุมโดยวิธีปกติร่วมกับประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่คณะกรรมการบริหารเห็นเป็นการสมควรโดยให้กำหนดวิธีการประชุมให้ชัดแจ้งในหนังสือเชิญประชุม
สำหรับวิธีการลงมติในการประชุมใหญ่สามัญและวิสามัญตามวิธีการประชุมดังกล่าว ในวรรคก่อน ให้คณะกรรมการบริหาร มีอำนาจกำหนดวิธีการลงมติตามวิธีการประชุมนั้นๆ โดยให้ประธานที่ประชุมแจ้งให้ที่ประชุมทราบก่อนการลงมติ
ข้อ 25. การประชุมใหญ่วิสามัญ สมาคมอาจจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญได้ ดังนี้
25.1 เมื่อคณะกรรมการบริหารเห็นว่ามีความจำเป็นให้เลขาธิการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญด้วยวิธีแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน หรือ
25.2 เมื่อสมาชิกสามัญจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 หรือจำนวนไม่น้อยกว่า 30 คน ได้เข้าชื่อร่วมกันร้องขอต่อคณะกรรมการบริหาร ให้เรียกประชุมให้เลขาธิการรีบดำเนินการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับคำร้องขอ
การประชุมใหญ่วิสามัญต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของสมาชิกทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่า 50 คน จึงจะเป็นองค์ประชุม
หากการประชุมตามความในวรรคก่อน มีสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม ให้เลขาธิการ เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายในกำหนด 14 วัน นับจากกำหนดวันนัดที่แล้ว และในครั้งนี้ ต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของสมาชิกทั้งหมด จึงถือว่าครบเป็นองค์ประชุม แต่ถ้าการประชุมนั้นมีขึ้นด้วยสมาชิกสามัญร้องขอน้อยกว่า 30 คน ก็ให้การประชุมนั้นเป็นอันระงับไป
ข้อ 26. ในการประชุมแต่ละครั้งให้นายกเป็นประธาน ถ้านายกไม่มาประชุมให้อุปนายกเป็นประธาน ถ้านายกและอุปนายกไม่มาประชุมให้คณะกรรมการบริหารเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานแทน
ข้อ 27. นอกจากข้อบังคับนี้จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น มติของที่ประชุมใหญ่ให้ถือตามเสียงข้างมาก หากคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีก 1 เสียง เป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ 28. ในการประชุมใหญ่สามัญ,วิสามัญ ให้ เลขาธิการสมาคม แจ้งวาระการประชุมให้สมาชิกทราบก่อนวันประชุมอย่างน้อย 7 วัน
ข้อ 29. การประชุมเพื่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ให้ปฏิบัติตามข้อบังคับ หมวด 9
หมวด 9
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ
ข้อ 30. สมาชิกสามัญจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน มีความประสงค์จะขอแก้ไข เพิ่มเติมหรือตัดทอนข้อความใดๆ ในข้อบังคับนี้ให้เสนอร่างข้อบังคับที่ตนเห็นสมควรพร้อมด้วยเหตุผลส่งไปยังเลขาธิการไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนวันประชุมใหญ่สามัญ,วิสามัญ และให้เลขาธิการจัดเข้าระเบียบวาระการประชุม
ข้อ 31. การแก้ไขเพิ่มเติมหรือตัดทอนข้อความใดๆ ในข้อบังคับนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบในที่ประชุมใหญ่สามัญหรือวิสามัญ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งขององค์ประชุม และจะต้องยื่นขอจดทะเบียนใหม่ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม
หมวด 10
การเลิกสมาคม และการชำระบัญชี
ข้อ 32. นอกจากการเลิกตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือตามคำสั่งศาลแล้วที่ประชุมใหญ่สามัญโดยมติเสียงข้างมากไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมดอาจมีมติให้เลิกสมาคมได้
ข้อ 33. ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งผู้ชำระบัญชีโดยเร็ว และการชำระบัญชีนั้นให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่บังคับใช้อยู่ในขณะเลิกสมาคม
ข้อ 34. ทรัพย์สินที่เหลือจากการชำระบัญชีให้ตกเป็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์